วัดหัวข่วง เป็น
วัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่าย
มหานิกาย ตั้งอยู่ใน
ตำบลในเวียง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่วัดหัวข่วง เชื่อกันว่าสร้างในสมัยเดียวกันกับ
พระธาตุช่อแฮ (พ.ศ. 1387) และ
วัดพระหลวงธาตุเนิ้ง[1] คาดว่าสร้างขึ้นในสมัยท้าวพหุสิงห์ พระโอรส
พ่อขุนหลวงพล เจ้าผู้ครองนครแพร่คนแรก เมื่อพ่อขุนหลวงพลอพยพมาจากเมือง
สิบสองปันนา ทางตอนใต้ของ
จีน ท่านลงมาตั้งที่บริเวณ
อำเภอร้องกวาง แต่พบว่ามีผู้ปกครองอยู่แล้ว คือ เจ้าวงพระถางเฒ่า จึงย้ายมาบริเวณอำเภอเมืองแพร่ มาสร้างชุมชน ได้สร้างวัดแห่งหนึ่งขึ้นนั่นก็คือ
วัดหลวง หลังจากปกครองเมืองแพร่มาเป็นเวลานานและอายุมากขึ้น จึงได้ยกเมืองให้แก่โอรสนามว่าท้าวพหุสิงห์ หลังจากขึ้นครองเมืองแล้ว ท้าวพหุสิงห์ได้บูรณะวัด โดยว่าจ้างช่างชาวเมืองเวียงพางคำเชียงแสน มาซ่อมแซมบูรณะวัดหลวง จากนั้นแม่เฒ่าจันคำวงศ์ ย่าของท้าวพหุสิงห์ได้เห็นฝีมือที่สวยงามของช่าง จึงคิดจะสร้างวัดขึ้นใหม่อีกแห่งหนึ่ง จึงเลือกเอาที่ดินว่างเป็นลานกว้างขวางกว่าเดิมใช้เป็น ข่วงเล่นกีฬาประจำเมือง เป็นที่สร้างวัด และใช้ช่างคนเดิมที่เคยมาบูรณะวัดหลวง วัดที่สร้างขึ้นใหม่ได้ชื่อว่า
วัดหัวข่วงสิงห์ชัยพระธาตุเจดีย์มีลักษณะเป็นแบบ
ศิลปะล้านนา และมีขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองแพร่ มีตำนานเล่าถึงการปรากฏของดวงแก้วออกมาจากยอดพระธาตุ มีขนาดเป็นรูปทรงกลมเท่าผมส้ม เปล่งรัศมีสุกใสสีส้มแกมสีเขียวมรกตดังสีพระจันทร์ ทรงกรด แสงสุกใสดังกล่าวมักจะมีปรากฏให้เห็นช่วงเวลาใกล้วันสำคัญของพระพุทธศาสนา พระธาตุเจดีย์มีฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยม กว้างด้านละ 13.50 เมตร สูง 25.60 เมตร ภายใต้ฐานเจดีย์มีสำเภาเงิน สำเภาทอง บรรจุ
พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า วิหารตกแต่งฐานพระประธานประดับด้วยมุก ประตูด้านหน้าแกะสลักเป็นภาพ
พุทธประวัติ ทำฉัตรเก้าชั้นด้วยเงินจากเมืองตะโก้ง หงสาวดีไว้ในวิหาร และภายหลัง
กรมศิลปากรได้เข้ามาบูรณะพระธาตุเจดีย์และอุโบสถซึ่งเป็นอุโบสถทรงล้านนา
[2]